แคลอรี่ การนับแคลในอาหาร
แคลอรี่ Calories คือหน่วยพลังงานที่ร่างกายได้รับจาก อาหาร และ เครื่องดื่ม ที่เรากินเข้าไป โดยร่างกายจะใช้พลังงานเหล่านี้เพื่อดำรงชีวิตในแต่ละวัน เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ การทำงานของสมอง การเคลื่อนไหวร่างกาย หากร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากกว่าที่ใช้ไป พลังงานส่วนเกินเหล่านั้นจะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปแบบของ ไขมัน ทำให้เราอ้วนขึ้น ดังนั้นหากต้องการ ลดน้ำหนัก เราจึงจำเป็นต้องควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน
วิธีนับแคลอรี่ ในอาหาร
การนับแคลอรี่ สามารถทำได้โดยการคำนวณปริมาณแคลอรี่ของอาหาร และเครื่องดื่มทั้งหมดที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน โดยสามารถคำนวณด้วยตนเอง หรือใช้แอปพลิเคชันช่วยคำนวณก็ได้
สามารถคำนวณแคลอรี่ของอาหารได้จากฉลากโภชนาการที่ติดมากับอาหาร โดยฉลากโภชนาการจะแสดงปริมาณแคลอรี่ของอาหารต่อหน่วยบริโภค เช่น 100 กรัม 1 ชิ้น เป็นต้น
การคำนวณแคลอรี่ด้วยแอปพลิเคชัน มี แอปพลิเคชันนับแคลอรี่ มากมายให้เลือกใช้ โดยแอปพลิเคชันเหล่านี้จะคำนวณแคลอรี่ของอาหารจากฐานข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ทำให้สะดวก และรวดเร็วกว่าการ คำนวณแคลอรี่ ด้วยตนเอง
ปริมาณ แคลอรี่ ที่ควรได้รับ
ปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับในแต่ละวันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ เพศ ระดับกิจกรรมทางกาย สุขภาพ และเป้าหมายในการลดน้ำหนัก โดยทั่วไป ผู้หญิงควรได้รับแคลอรี่ประมาณ 1,800-2,200 แคลอรี่ต่อวัน และผู้ชายควรได้รับแคลอรี่ประมาณ 2,200-2,500 แคลอรี่ต่อวัน หากต้องการลดน้ำหนัก ควรรับประทาน อาหารแคลอรี่น้อย กว่าที่ร่างกายต้องการประมาณ 500-1,000 แคลอรี่ต่อวัน
ตัวอย่าง อาหารแคลน้อย
ผัก ผลไม้ มีแคลอรี่ และสร้างความอิ่ม
ธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้น
เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม
ปลา โปรตีนสูง และไขมันไม่อันตราย
ไข่ไก่ โปรตีนสูง และ แคลอรี่ต่ำ
นมพร่องมันเนย เป็นนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
การนับแคลอรี่ในอาหารมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
- ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง
- ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ :: 10 เมนูเพื่อสุขภาพ